ประวัติเลสเตอร์ซิตี จิ้งจอกสยาม The Foxes สโมสรฟุตบอลที่คนไทยเป็นเจ้าของ

ประวัติเลสเตอร์ซิตี “The Unbelievables” สโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ผู้สร้างตำนานพรีเมียร์ลีก

ประวัติเลสเตอร์ซิตี หรือ Leicester City Football Club ถือว่าสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีประวัติความขลังและเก่าแก่ยาวนานกว่า 100 ปี จุดเริ่มต้น ประวัติความเป็นมาของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี เริ่มต้นจาก การรวมตัวกันของกลุ่มเด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่กับโบสถ์ Emanuel Chapel ห้องเรียนไบเบิ้ล Rev Lyewellyn Parsons ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1884

ด้วยการรวมเงินกัน คนละ 9 เพนซ์ เพื่อซื้อลูกฟุตบอลมาเตะเล่นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งก็ได้กลายเป็นสโมสรฟุตบอล ในเขตตะวันออกของเกาะอังกฤษแถบมิดแลนด์ ภายใต้ชื่อ Leicester Fosse  จากนั้นมา เลสเตอร์ ซิตี้ ก็สร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกด้วยการ การเอาชนะทีม Syston Fosse ในวันที่ 1 พ.ย. 1884 ที่สนาม วิคตอเรีย พาร์ค

เลสเตอร์ซิตี เป็นสโมสรแรกที่มีสนามเหย้า ก่อนการก่อตั้งสโมสรอย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 1886 เมื่อมีสมาชิกครบ 40 คนพอดี ก่อนที่จะเข้าร่วมกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษในปี ค.ศ. 1890 และย้ายไปเล่นที่สนามใหม่บนถนนฟิลเบิร์ตสตรีท สนามเก่าแก่ที่ใช้แข่งขันฟุตบอลในปีค.ศ. 1891

ก่อนจะแข่งขันนัดสุดท้ายและยกเลิกไปในปี ค.ศ. 2002 นับเป็นเวลายาวนานถึง 111 ปี และสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ขึ้นชื่อ Walkers Stadium จากการเข้ามาดูแลภายใต้บริษัทขนม Walkers และการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในปี ค.ศ. 2010 ภายใต้การควบคุมดูแลของบริษัท คิง เพาเวอร์ กับการเปลี่ยนไปตลอดกาล

ประวัติเลสเตอร์ซิตี การเป็นแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2015-16 และเป็นแชมป์เพียงครั้งเดียวบนลีกสูงสุดทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็น 1 ใน 6 สโมสรที่ก่อนตั้งก่อน ปี 1992 ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ และรับชื่อทีม The Unbelievables ไปในทันที

เส้นทางฟุตบอลของสโมสร ประวัติเลสเตอร์ซิตี จิ้งจอกสีน้ำเงิน หรือ จิ้งจอกสยาม

การรวมตัวของนักเรียนโรงเรียน Wyggeston and Queen Elizabeth I College แห่งเมือง Leicester ในปี ค.ศ. 1884 นำไปสู่การก่อตั้งทีมฟุตบอลจากการรวมเงินกัน ในนาม Leicester Fosse FC ในสมัยนั้นพวกเขาใช้สนามเหย้าถึง 5 แห่ง รอบ ๆ ถนน Fosse

ประวัติเลสเตอร์ซิตี

เดอะ ฟอสส์ เวย์ (The Fosse Way) คือถนนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน ซึ่งถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของสโมสร และที่มาของชื่อนี้ก็คือ ถนนที่เชื่อมระหว่างภาคตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ต่อมาในปี ค.ศ. 1891 ทีมฟุตบอลแห่งนี้ก็มีสนามเหย้าหลัก Filbert Street เป็นครั้งแรก และร่วมเข้าแข่งขันฟุตบอลมิดแลนด์ลีก

ถึงแม้ว่า ประวัติเลสเตอร์ซิตี การแข่งขันในเกมลีกดิวิชั่น 2 อย่างเป็นทางการครั้งแรกของพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับ Grimsby Town ไปอย่างน่าเสียดาย 4 – 3 แต่ว่าชัยชนะครั้งแรกของสโมสรเกิดขึ้นหลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ กับ Rotherham United และประวัติศาสตร์ขีดเขียนด้วยสถิติการถล่มประตู Notts Olympic แบบมโหฬาร 13 – 0

จนกลายเป็นสถิติที่มีอยู่จวบจนถึงปัจจุบัน และเมื่อถึงฤดูกาล 1907 – 1908 เลสเตอร์ ตารางคะแนน ก็เลื่อนขึ้นมาอยู่ดิวิชั่น 1 เป็นครั้งแรก

ต่อจากนั้นในปี ค.ศ. 1914 ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้อยู่ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ จึงต้องย้ายไปแข่งขันในระดับภูมิภาคแทน (มิดแลนด์ลีก) จากนั้นในปี ค.ศ. 1919 Leicester Fosse FC เปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น Leicester City Football Club โดยใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน

ประวัติเลสเตอร์ซิตี

หลังสิ้นสุดสงครามโลก เลสเตอร์ซิตีก็ต้องพบกับความตกต่ำอีกครั้ง ด้วยการย้ายลงไปอยู่ดิวิชั่น 2 ตั้งแต่ปี 1949 จนถึงปี 1954 จากนั้นกลับมาอยู่ดิวิชั่น 1 เพียงฤดูกาลเดียวและก็กลับไปดิวิชั่น 2 ใหม่ วนเวียนอยู่แบบนี้จนถึงปี 1971 ประวัติความเป็นมาของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี

แต่ภายใต้ยุคสมัยที่กำลังขึ้น เลสเตอร์ ซิตี้ ยังมีช่วงเวลาที่รุ่งเรืองให้เห็นอยู่เป็นพัก ๆ ด้วยการการเข้าชิง FA cup 2 สมัย ในปี 1961 และ 1963 ถึงแม้ว่าในช่วงนั้นจะได้เพียงแค่รองแชมป์ก็ตาม หลังจากนั้นในปี 1971 ที่ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 จากนั้นทำการคว้าแชมป์ FA Charity Shield (FA Community Shield ในปัจจุบัน)

ด้วยการเอาชนะทีมลิวเอร์พูล นับได้ว่าเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของสโมสร เข้ารอบรองชนะเลิศของถ้วย FA cupในปี 1973 – 1974 ด้วยการคุมทีมของ Jimmy Bloomfield (จิมมี่ บลูมฟิลด์) และเป็นการอยู่บนลีกสูงสุดยาวนานมากที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มา

ประวัติเลสเตอร์ซิตี

ประวัติเลสเตอร์ซิตี การเปลี่ยนแปลงของสโมสร จากจุดที่ตกต่ำไปสู่เวทีพรีเมียร์ลีก

เลสเตอร์ซิตี ยังคงขึ้น ๆ ลง ๆ ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 อย่างไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากการจากไปของ Jimmy Bloomfield และมี Frank McLintock เข้ามาคุมทีมแทนในปี 1978 และมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอย่างต่อเนื่องปีต่อปี ได้แก่ Peter Hodge, Matt Gillies

จนมาถึง Jock Wallace ที่ได้นำทีม เลสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นมาอยู่บนลีกสูงสุดอีกครั้งในปี 1980 ในปี 1991 เลสเตอร์ ซิตี้เกือบที่จะลงไปอยู่ในดิวิชั่น 3 ด้วยการขับเคี่ยวกันช่วงท้ายฤดูกาลทำให้ยังคงรักษาตำแหน่งรอดปลอดภัยจากการย้ายดิวิชั่นได้

หลังจากการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียกลีกจากดิวิชั่น 1 เป็นพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 2 กลายเป็น แชมป์เปี้ยนชิฟ ในปี 1992 ที่สโมสรเลสเตอร์ยังคงขับเคี่ยวอยู่ในแชมป์เปี้ยนชิฟ การเข้ามาคุมทีมของ Mark McGhee ในฤดูกาล 1994-1995 ได้ทำให้ทีมเลสเตอร์ขึ้นมาอยู่บนพรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง

แต่ว่าก็ยังไม่สามารถรั้งอยู่บนลีกสูงสุดได้ อาจจะเพราะนักเตะไม่เก่ง หรือ เงินทุนไม่เพียงพอ จากนั้นปี 2002 ก็ได้ย้ายสนามเหย้า และทีมเลสเตอร์ก็ตกลงสู่ดิวิชั่น 3 ทันทีเมื่อจบฤดูกาล 2007-2008 ประวัติความเป็นมาของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี

ความเจ็บช้ำใจของชาวเมืองเลสเตอร์มาถึงขีดสุด เมื่อสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ได้ลงไปอยู่ในลีกวัน (ดิวิชั่น 3) จิ้งจอกน้ำเงินต้องการเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง และไนเจล เพียร์สัน ได้นำพาทีมเลสเตอร์กลับสู่ลีกวัน (ดิวิชั่น 2) อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้ไปต่อ

ประวัติเลสเตอร์ซิตี ในปี 2010 ได้มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือที่เข้ามาคุมทีม เปาโล ซูซ่า หรือ ซเวน โกรัน อีริกซั่น และภายในปีเดียวกันนี้ทำให้ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ตลอดกาลด้วยการเข้ามาเทคโอเวอร์แบบ 100% ของบริษัท คิงเพาเวอร์ และเปลี่ยนชื่อ สนามเป็น คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม

ประวัติเลสเตอร์ซิตี การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ทำให้ ไนเจล เพียร์สัน กลับมาคุมทีมอีกครั้งในฤดูกาล 2011-2012 จนถึงปี 2013-2014 ให้ชาวเมืองเลสเตอร์ได้ดีใจอีกครั้งกับการก้าวขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

ประวัติเลสเตอร์ซิตี

ในฤดูกาล 2014-2015 เป็นความกดดันอย่างหนักของเวทีพรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ทำได้เพียงแค่ฮึดสู้เพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้อยู่บนลีกสูงสุดเท่านั้น จากการจมดิ่งอยู่ท้ายตารางนานถึง 140 วัน ที่คาดว่าจะหลุดจากพรีเมียร์ลีกแน่นอนแล้ว  แต่ความมุ่งมั่นของนักเตะและผู้จัดการทีมที่ไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา

ก็ทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ 7 นัด จาก 9 นัดสุดท้าย พาทีมรอดตายราวปาฏิหาริย์ และปาฏิหาริย์แห่งโชคชะตาเกิดก็ขึ้นอีกครั้งจากทีมหนีตายในการตกชั้น ฤดูกาล 2015-2016 เคลาดิโอ รานิเอรี่ ทำให้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษไม่ได้ผูกขาดในการแย่งชิงตำแหน่งเพียงแค่ ท็อปโฟร์อีกต่อไป

132 ปีแห่งการรอคอย จิ้งจอกสีน้ำเงิน ได้คว้าแชมป์แห่งประวัติศาสตร์สำเร็จเป็นครั้งแรก ความสำเร็จในครั้งนี้เรียกได้ว่าช็อควงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ ซิตี้ ล่าสุด ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจของวงการลูกหนังอังกฤษได้สำเร็จและ เลสเตอร์วันนี้ ยังอยู่บนเวทีพรีเมียร์ลีกจนถึงปัจจุบัน

ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติม : อนิเมะ

อ่านบทความเพิ่มเติม >>> ประวัตินิวคาสเซิล