ประวัติ “แฮร์รี่ เคน” ดาวยิงจาก “ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์” สโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

แฮร์รี่ เคน

ทำไม แฮร์รี่ เคน ถึงยิงถล่มทลายจนกลายเป็นยอดดาวยิง?

แฮร์รี่ เคน คือนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทีมชาติอังกฤษ ตำแหน่งที่เล่นคือ กองหน้า ปัจจุบันเล่นให้กับทีม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ อังกฤษ ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ผลงานของเขาไม่ว่าจะเป็นทั้งในระดับสโมสรหรือทีมชาติเขาก็มีมาตรฐานที่สม่ำเสมอ จนถึงขั้นที่เขาสามารถคว้ารางวัล ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทีมชาติอังกฤษ มาครองได้ทั้งของสโมสรด้วย

จุดเริ่มต้นในอาชีพฟุตบอลของเขา เริ่มต้นจากการเข้ามาอยู่ในอคาเดมีของสเปอร์ส ตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นเด็กฝึกอยู่กับหลายสโมสรในอังกฤษ ทั้ง ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส (ช่วงปี 1999-01 และ 2002-04), อาร์เซนอล (2001-02) และวัตฟอร์ด (2004)

ซึ่งเคนได้ยกระดับฝีเท้าของตัวเองเรื่อย ๆ ที่สเปอร์ส จนมีอายุได้ 17 ปี ก็ได้รับโอกาสให้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับสโมสรอื่นเป็นชั่วคราว จนในปี 2011-2013 เขาก็ออกไปโดนยืมตัวอยู่กับหลายสโมสรไม่ว่าจะเป็น เลย์ตัน โอเรียน (2011), มิลล์วอลล์ (2012), นอริชซิตี้ (2012-13) และ เลสเตอร์ซิตี้ (2013)

หลังจากย้ายไปอยู่กับหลายสโมสรก็ทำให้ ยอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ได้รับประสบการณ์กลับมาเยอะ จนเจ้าตัวเริ่มได้มีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในวัยที่อายุยังไม่ครบ 20 ปีเต็มด้วยซ้ำ

จากการที่เขาย้ายไปยืมตัวให้กับหลายสโมสรก็ทำให้เขาได้รับประสบการณ์กลับมาเยอะพอสมควร ก่อนที่เขาจะเริ่มได้โอกาสให้มีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในวัยที่อายุยังไม่ครบ 20 ปีเต็มด้วยซ้ำ

2013/14 คือฤดูกาลแรกที่เขาได้ลงเล่นกับทัพ “ไก่เดือยทอง” ภายใต้การทำทีมของ อังเดร วิลลาส โบอาส ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ทิม เชอร์วูด ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง โดยเขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกนัดแรกเป็นเกมที่พบกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ นัดนั้นเขาได้โอกาสลงมาเป็นตัวสำรองในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย ยังไม่ใช่ตำแหน่งกองหน้าที่เขาเล่นอยู่ในปัจจุบัน

กว่าจะทำคะแนนให้ทีมชุดใหญ่ได้ก็เป็นช่วงท้ายฤดูกาล ซึ่งเป็นเกมที่พบกับ ซันเดอร์แลนด์ โดยเขาลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกและยิง 1 จ่าย 1 ช่วยให้ทีมเอาชนะทัพ “แมวดำ” ไปได้ 5-1 หลังจากนั้น แฮร์รี่ เคน ก็ได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องและสามารถทำประตูได้ถึง 3 ลูกติดต่อกัน ทั้งการเจอกับ ซันเดอร์แลนด์, เวสต์บรอมวิช และ ฟูแล่ม

หลังจากจบฤดูกาลแรก  การทำประตูของ ยอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เพราะเคนลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปทั้งสิ้น 10 นัด ทำไป 3 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์

แฮร์รี่ เคน

ขึ้นเล่นให้กับชุดใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก ความเก่งกาจของ แฮร์รี่ เคน

ฤดูกาล 2014/15 ในยุคของกุนซือคนใหม่อย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ตัวของ แฮร์รี่ เคน ก็ได้โอกาสลงเล่นเป็นกองหน้าให้กับทีมทันที เขายึดตำแหน่งปาดหน้ารุ่นพี่ภายในทีมทั้ง โรแบร์โต้ โซลดาโด้ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เพราะทั้งสองคนนี้ไม่สามารถฝากความหวังในเรื่องของการทำประตูได้มากเท่าที่ควร ทำให้กุนซือคนใหม่ตัดสินใจเลือกเด็กวัย 20 ปีเป็นกองหน้าตัวเป้าแทน

และเคนก็ไม่ทำให้ความไว้ใจของโปเช็ตติโน่ต้องสูญเปล่า ด้วยการทำไปถึง 21 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในลีกไป 34 นัด และถ้านับรวมทุกรายการที่เขาลงเล่นไป 51 นัด ก็ทำไป 31 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ คว้ารางวัลรองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก รวมถึงคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ PFA ไปครองในฤดูกาลนั้น

ส่วนผลงานของเขาที่ฝากไว้กับสโมสรในตอนนั้น ไก่เดือยทอง คว้าอันดับ 5 ในพรีเมียร์ลีก และยังพาทีมเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกลีกคัพ หรือแคปิตอลวันคัพ ในเวลานั้น แต่สุดท้ายสเปอร์สก็ไปแพ้ให้กับคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนอย่าง เชลซี ด้วยสกอร์ 0-2

ด้วยผลงานที่เป็นประจักษ์ทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว คนเริ่มรู้จักไปทั่วอังกฤษ และยังไปเข้าตา รอย ฮอดจ์สัน  จนกระทั่งได้รับการเรียกไปติดทีมชาติในปี 2015 และเขาก็ได้ประเดิมสนามแรกกับ สิงโตคำราม ด้วยการถล่ม ลิธัวเนีย 4-0 ของศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือก จากนั้นฟอร์มการเล่นของเคนก็ได้รับการต่อยอดมาเรื่อย ๆ ในฤดูกาล 2015/16 ซีซั่นนั้นผลงานลีกของเขา

ถือว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะเขายิงไป 25 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 38 นัด มีส่วนสำคัญให้สเปอร์สก้าวขึ้นเป็นทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เบียดแย่งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้เกือบทั้งฤดูกาล ก่อนจะจบด้วยอันดับที่สาม ในฤดูกาลดังกล่าว

จากนั้นฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของ แฮร์รี่ เคน ก็ได้รับการต่อยอดในฤดูกาล 2015/16 ซีซั่นนั้นผลงานในลีกของเขาถือว่ายอดเยี่ยมมาก เขาทำไป 25 ประตูจากการลงเล่นครบ 38 นัด มีส่วนสำคัญให้สเปอร์สก้าวขึ้นไปเป็นทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเบียดแย่งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้เกือบตลอดทั้งฤดูกาล ก่อนจะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 ในฤดูกาลดังกล่าว

2 ซีซั่นถัดมา ผลงานการทำประตูของเขายังคงสุดยอดเหมือนเดิม โดยฤดูกาล 2016/17 เคนทำประตูในลีกให้กับสโมสรต้นสังกัดไปถึง 29 ประตูจากการลงสนามแค่ 30 นัดเท่านั้น ก่อนที่จะจบฤดูกาลด้วยการคว้ารองแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้น และคว้ารองเท้าทองคำได้เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทีมชาติอังกฤษ

ต่อด้วยฤดูกาล 2017/18 มาตรฐานการทำประตูของเคนก็ยังคงอยู่ในจุดที่ดีเหมือนเดิมด้วยการทำไป 30 ประตูจากการลงเล่นในลีก 37 นัด คว้ารางวัลรองดาวซัลโวในพรีเมียร์ลีกไปครอง โดยมีเพียงแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตัวรุกของลิเวอร์พูลคนเดียวเท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่าเขา

แต่อีก 4 ซีซั่นหลังจากนั้น ผลงานการทำประตูในลีกของเขาก็ถือว่าถดถอยลงไปพอสมควร แต่ก็ยังอยู่ในเลขสองหลักเหมือนเดิม สาเหตุที่ผลงานการทำประตูของเขาตกลงไปจากเดิม เป็นเพราะว่า แฮร์รี่ เคน ได้รับบทบาทให้ทำหน้าลงมารับบอลต่ำและจ่ายบอลสร้างโอกาสให้กับตัวรุกคนอื่น ๆ ได้สอดขึ้นไปทำประตูมากขึ้น

จนมาถึงฤดูกาลล่าสุด 2022/23 ผลงานของเขาก็เริ่มกลับมาโดดเด่นอีกครั้งภายใต้การทำทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ณ ตอนนี้เขายิงประตูในลีกไปเกิน 20 ลูกแล้ว ซึ่งเขาน่าจะรักษาฟอร์มการเล่นและทำผลงานส่วนตัวให้ดีขึ้นอีกได้ในอนาคต

ส่วนผลงานกับทีมชาติอังกฤษถือว่าเขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นมาก ๆ และทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง มีเพียงแค่ทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2016 ที่เขาทำประตูไม่ได้เลย นอกจากนั้นกับทีมชาติอังกฤษเขาก็มีผลงานที่ดีติดตัวมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น ศึกยูโร 2020 หรือในฟุตบอลโลกปี 2018 และปี 2022 เขาก็สามารถทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ทั้งในรอบคัดเลือกและรอบสุดท้าย

สาเหตุทำไมทำประตูได้เยอะ? เพราะมีเพื่อนร่วมทีมคุณภาพดีคอยสนับสนุน

ตั้งแต่เขาก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ให้กับสเปอร์ส ในปี 2013 หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทีมชาติอังกฤษ สามารถทำประตูได้อย่างถล่มทลายอาจเป็นเพราะทีมมีขุมกำลังคุณภาพดีคอยสนับสนุนช่วยเหลือให้เขาทำสกอร์ได้อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ฤดูกาล ยกตัวอย่างในฤดูกาล 2013/14 ทีมก็มีตัวรุกที่มีเทคนิคแพรวพราวมากมาย

ทำให้ทีมมีโอกาสเข้าทำประตูพอสมควร เพียงแค่สเปอร์สขาดการจบสกอร์ที่เฉียบคมจากกองหน้า ซึ่งช่วงท้ายของฤดูกาลนั้น แฮร์รี่ เคน ก็ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแทนรุ่นพี่ และถัดจากนั้นมาทีมก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นไปค่อนข้างเยอะ นักเตะชุดแรก ๆ อย่าง แอนดรอส ทาวน์เซนด์, อารอน เลนน่อน หรือแม้แต่ กิลฟี่ ซิเกิร์ดสสัน ได้ย้ายออกไป และสโมสรก็ไปดึงนักเตะที่คุณภาพดีขึ้นเข้ามาทดแทนหลายคน

สเปอร์สยังได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งตัวรุกหลังกองหน้าเพื่อให้ทีมมีขุมกำลังเกมรุกที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยนักเตะอย่าง ไบรอัน คิล, เดยัน คูลูเซฟสกี้, ริชาร์ลิซอน หรือแม้กระทั่งจอมเก๋าอย่าง อิวาน เปริซิช ซึ่งพวกเขาจะคอยประสานงานร่วมกับ แฮร์รี่ เคน เพื่อให้กองหน้าชาวอังกฤษรายนี้จบสกอร์จากการสร้างโอกาสของผู้เล่นตัวรุกคนอื่น ๆ

สเปอร์สที่หันมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คนและใช้วิงแบ็กคอยสนับสนุนเกมรุกมากขึ้น ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธที่ช่วยให้ แฮร์รี่ เคน มีผลงานการทำประตูที่โดดเด่นจนกลายเป็นมาตรฐานที่กองหน้าในพรีเมียร์ลีกต้องมาแข่งขันกับเขา

ขณะเดียวกันในตอนที่เคนเดินทางไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ภายในทีมก็มีผู้เล่นตัวรุกมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนกันมาติดทีมชาติ โดยบรรดาตัวรุกก็มีหน้าที่คอยสนับสนุนเกมรุกช่วยส่งบอลให้กับกองหน้าได้จบสกอร์ ทำให้ ยอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ สามารถทำประตูได้อย่างมากมาย จนก้าวขึ้นมาติดดาวซัลโวสูงสุดในระยะเวลาอันสั้น

กองหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีก เพราะครบเครื่องในการเป็นกองหน้า

ปัจจัยที่ถือว่าสำคัญไม่ต่างจากการมีเพื่อนร่วมทีมคอยสนุบสนุน ก็คือ เคนเป็นกองหน้าในแบบที่เรียกว่า Complete Forward ด้วยสไตล์การเล่นของเขาที่สามารถทำประตูได้ทุกระยะ ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเท้าซ้าย เท้าขวา ลูกโหม่ง แม้แต่การนอนยิงเขาก็เคยทำมาแล้ว แถมเขายังเป็นนักเตะที่ยิงจุดโทษได้เฉียบขาดที่สุดในทีม  ทำให้เขามักจะได้รับหน้าที่สังหารจุดโทษบ่อยครั้ง

ขณะที่การยิงฟรีคิก เขาก็ทำได้มาแล้วในเกมลีกนัดที่เฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 ในฤดูกาล 2014/15 โดยนัดนั้นเขายิงฟรีคิกเข้าไปในช่วงท้ายเกม กลายเป็นประตูชัยและคว้า 3 แต้มมาครองได้อย่างเฉียดฉิว

ลักษณะการยิงประตูของเคน อ้างอิงจาก เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพรีเมียร์ลีก 204 ประตูที่เขาทำได้บนลีกสูงสุดมาจากการทำประตูด้วยเท้าขวา 123 ประตู เท้าซ้าย 40 ประตู ลูกโหม่ง 39 ประตูและอื่น ๆ อีก 2 ประตูซึ่งใน 123 ประตูนั้นมีการยิงจุดโทษไป 31 ประตูและฟรีคิกอีก 1 ประตู

ขณะที่จำนวน 55ประตูในนามทีมชาติอังกฤษ อ้างอิงจาก บีบีซีฟุตบอล เขาทำประตูด้วยเท้าขวาไป 39 ประตูเท้าซ้าย 6 ประตูและลูกโหม่งอีก 9 ประตูโดยที่ใน 39 ประตูมีการยิงจุดโทษไปถึง 18ประตู

กลายเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ยอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทีมชาติอังกฤษ เป็นหนึ่งในหัวหอกที่สามารถจบสกอร์ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะจังหวะ Open Play หรือจังหวะ Set Play ขอแค่ให้บอลมาถึงตัวเขา แฮร์รี่ เคน ก็พร้อมจะทำคะแนนให้กับทีมได้ทุกจังหวะของเกม

ยอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ควบสองดาวซันโว

จากผลงานการถล่มทลายของเขาในระดับสโมสร ทำให้ ยอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ รายนี้ก้าวขึ้นมามีชื่ออยู่ใน 10 อันดับดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ทั้งที่อายุของเขาก็ยังไม่ได้มาก

รวม 9 ฤดูดาลที่ผ่านมา เขายิงประตูได้มากจนมีจำนวนตัวเลขแซงหน้าตำนานสโมสรไปหลายคน จนตอนนี้เขายิงประตูให้กับสเปอร์สในลีกไปแล้ว 204 ประตูกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสเปอร์สอันดับ 2 (นับเฉพาะเกมลีกเท่านั้น) โดยคนที่ทำได้มากกว่าเขาคือ จิมมี่ กรีฟส์ (1961-1970) ที่ทำไว้ 220ประตู

อย่างไรก็ตาม ถ้านับรวมทุกรายการ ยอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2023 เป็นเกมที่เปิดบ้านชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 นัดนั้นเคนทำประตูชัยให้กับทีมเป็นประตูที่ 267 ของเขากับสโมสร

และนั่นกลายเป็นประตูประวัติศาสตร์ที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมแซงหน้า จิมมี่ กรีฟส์ ที่ทำเอาไว้ 266 ประตูรวมทุกรายการ ซึ่งปัจจุบันนี้เขาทำประตูให้กับไก่เดือยทองไปแล้วทั้งสิ้น 271ประตู

ส่วนกับทีมชาติอังกฤษ เขาติดทัพมาตั้งแต่ปี 2015 และกลายเป็นกองหน้าตัวหลักนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งในแต่ละช่วงที่ทีมชาติมีโปรแกรมการแข่งขันเขาก็มักจะทำประตูได้อยู่เรื่อย ๆ และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของตำแหน่ง ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทีมชาติอังกฤษ

ล่าสุด ปลายเดือนมีนาคม ปี 2023 เคนได้สร้างประวัติศาสตร์ในนามทีมชาติให้กับตัวเองได้สำเร็จด้วยการทำประตูที่ 54 ของเขากับทีมชาติในเกมที่ อังกฤษ เฉือนชนะ อิตาลี 2-1 ทำให้กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมแซงหน้ารุ่นพี่อย่าง เวย์น รูนี่ย์ ที่ได้ทำเอาไว้ 53 ประตู

ถัดจากนั้นเกมที่พบกับ ยูเครน ที่สนามเวมบลีย์ เคนก็ยังทำได้อีก 1 ประตูส่งผลให้เขาทำประตูในนามทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 55 ประตูเชื่อว่าสถิติการทำประตูของเขาจะยังเดินหน้าต่อไป และอาจไปได้ไกลจนยากที่จะทำลายสถิติลงได้ด้วย

ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติม : ดูบอล

อ่านบทความเพิ่มเติม >>> กีฬาอันดับหนึ่งยอดนิยมของประเทศสหรัฐอเมริกา