โปรไฟล์โหด “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือใหม่ทีมชาติไทย

โปรไฟล์โหด “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือใหม่ทีมชาติไทย

โปรไฟล์โหด “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือใหม่ทีมชาติไทย

มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือป้ายแดงของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่เข้ามากุมบังเหียนแทนที่ “มาโน่ โพลกิ้ง” กลายเป็นเฮดโค้ชต่างชาติคนที่ 12 ที่ได้คุมทัพ “ช้างศึก” และเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเอเชียคนที่ 2 ต่อจาก อากิระ นิชิโนะ โค้ชร่วมชาติชาวญี่ปุ่น

 อีกทั้ง “มาซะ” ยังเป็นคนที่ 19  (ไม่นับโค้ชชั่วคราว สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ / ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นกุนซือใหญ่ทีมชาติไทยอีกด้วย

สำหรับกุนซือใหญ่ที่เป็นชาวต่างชาติของทีมชาติไทย นับตั้งแต่ปี 1956 เป็นต้นมา มีดังนี้

– กึนเทอร์ กลอมบ์ (เยอรมนี) ปี 1968-1975

– ปีเตอร์ ชนิทเจอร์ (เยอรมนี) ปี 1976-1978

– ปีเตอร์ วิธ (อังกฤษ) ปี 1998-2003

– คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่ (บราซิล) ปี 2003-2004

– ซีคฟรีท เฮ็ลท์ (เยอรมนี) ปี 2004-2005

– ปีเตอร์ รีด (อังกฤษ) ปี 2008-2009

– ไบรอัน ร็อบสัน (อังกฤษ) ปี 2009-2011

– วินฟรีด เชเฟอร์ (เยอรมนี) ปี 2011-2013

– มิโลวาน ราเยวัช ( เซอร์เบีย) ปี 2017-2019

– อากิระ นิชิโนะ (ญี่ปุ่น) ปี 2019-2021

– อเล็กซานเดร มาโน่ โพลกิ้ง (บราซิล) ปี 2021-2023

สำหรับ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 56 ปี ผ่านประสบการณ์การคุมทีมประสบความสำเร็จมาอย่างโชกโชนกับผลงานเด่นสุดคือพาสโมสรคาชิม่า แอนท์เลอร์ส คว้าแชมป์ลูวานคัพ 2015, แชมป์เจลีก 2016, แชมป์เอ็มเพอเรอร์ส คัพ 2016, แชมป์ซูเปอร์คัพ 2017 และเคยพาทีมคว้ารองแชมป์สโมสรโลกมาแล้วในปี 2016 หลังแพ้ เรอัล มาดริด ทีมแกร่งจากลาลีก้า สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ 2-4

นอกจากนี้ “มาซะ” ยังเคยคว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมเจลีกแห่งปี 2016 มาแล้ว ก่อนออกมาผจญภัยที่ประเทศไทย คุมทีมสมุทรปราการ ซิตี้ เป็นทีมแรกเมื่อปี 2019 และย้ายมาคุมทัพบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2021 ก่อนสร้างประวัติศาสตร์บนลีกแดนสยาม ด้วยการเป็นเฮดโค้ชคนแรกพา “ปราสาทสายฟ้า” คว้าทริปเปิลแชมป์ (ไทยลีก, ช้าง เอฟเอ คัพ ,ลีกคัพ) 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

โดยกุนซือเลือดเนื้อชาวจังหวัดชิบะ จะประเดิมนำทีมเบอร์สองแห่งภูมิภาคอาเซียน ลงเตะแมตช์กระชับมิตรบุกเยือนทีมบ้านเกิดทัพ “ซามูไรบลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น ทีมนัมเบอร์วันแห่งทวีปเอเชีย ในวันจันทร์ ที่ 1 ม.ค. 2567 ที่สนามกีฬาแห่งชาติใหม่ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เวลาไทย 12.00 น.

ที่มา: https://www.siamsport.co.th/

ติดตามข่าววงการกีฬาได้ที่ >>> ข่าวกีฬา

สมัครสมาชิก >>>  คลิ๊ก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *